วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ตัวอย่างการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีในประเทศไทย


ตัวอย่างการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีในประเทศไทย



 คดีที่ 1  จับแล้ว เจ้าของ โปร คาบาล, โรฮาน


               เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2554 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท) และบริษัทเอเซียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกันจับกุมตัว  “นายนภดล  ชุมดี”  ข้อหาละเมิดลิขสสิทธ์ โดยใช้โปรแกรมช่วยเล่น ผ่านเว็บไซต์ "ddprogame.blogspot.com" เพื่อจำหน่ายและเผยแพร่ชุดคำสั่งที่ทำให้รบกวนการทำงานของเกมส์คาบาลออนไลน์และเกมส์โรฮานออนไลน์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธ์ สามารถยึดของกลางได้ เซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง และ เร้าเตอร์ 1 ตัว
มาตราที่ทำผิดและโทษที่ได้รับ
               ศาลได้ตัดสินให้ “นายนภดล ชุมดี”  มีความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ใน
-          มาตราที่ 13 ว่าด้วย ผู้ใดจำหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคำสั่งที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด ได้รับโทษจำคุก 2เดือน ปรับ 7,000บาท และรอลงอาญา
               และศาลตัดสินให้ผู้ที่ใช้โปรแกรมของนายนภดล ชุมดี มีความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
-          มาตรา 9 ว่าด้วย "ผู้ใดเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน)ได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  
แนวทางการหลีกเลี่ยงหารกระทำผิด
               การที่เราไปเป็นผู้ใช้บริการทางคอมพิวเตอร์เราสามารถหลึกเลี่ยงการกระทำผิดเหล่านี้ได้โดยการไม่ใช้บริการทางอินเทอร์เน็ตที่มีการละเมิดลิขสิทธ์ ใช้บริการจากเว็ปไวน์ที่หน้าเชื่อถือโดยดูจาก URL ไม่ควรบอก user ID และ password ให้แก่ผู้อื่นรู้ และไม่ควรให้ผู้อื่นใช้คอมพิวเตอร์ของเรา เพราะเขาอาจจะเข้าใช้บริการเว็บไซน์ที่ผิดกฎหมายได้

อ้างอิง : อาริยา  ตั๋วโรย .2554. ข่าวการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
(ออนไลน์). แหล่งที่มา:http://arriyatuaroy.blogspot.com/. 11 พฤษจิกายน 2559.

คดีที่ 2  ตำรวจบุกรวบหมอสาวคาโรงพยาบาลธนบุรี เอี่ยวคดี ทุบหุ้น รับเคยโพสต์ข้อความมิบังควรลงเว็บบอร์ด จนท.ค้นห้องพักยึดโน้ตบุ๊ค เผยรวมเป็นรายที่ 4




               จากกรณีที่ตำรวจหลายหน่วยงานได้ร่วมกันจับ นายคธา ปาจาริยพงษ์ พนักงานบริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด น.ส.ธีรนันต์ วิภูชนันธ์ อายุ 43 ปี กรรมการบริหารบริษัทหลักทรัพย์ยูบีเอส (ประเทศไทย) จำกัด และนายสมเจตน์ อิทธิวรกุล อายุ 38 ปี เจ้าของโต๊ะสนุ๊กเกอร์แห่งหนึ่งในชลบุรี ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ได้ทำกระทำผิดตาม พรบ.ว่าด้วยการทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เรื่องการโพสต์ข้อความอันมิบังควรผ่านทางเว็บไซต์ในอินเตอร์เน็ต จนก่อให้เกิดความไม่มั่นคงต่อประเทศชาติและส่งผลกระทบทำให้เศรษฐกิจรวมถึง ตลาดหุ้นไทย
               ล่าสุดตำรวจก็ได้เข้าจับกุม พญ.ทัศพร รัตน์วงศา อายุ 42 ปี แพทย์รังสีวิทยา โรงพยาบาลธนบุรี ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหากระทำความผิดตามมาตรา 14 พ.ร.บ.เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ก่อให้เกิดความเสียหายปี 2550 ข้อหานำเข้าข้อมูลอื่นและเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ ทำให้ประชาชนหลงเชื่อก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงต่อประเทศ โดยมีพฤติกรรมไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติ ปล่อยข่าวให้เกิดความเสื่อมเสีย โดยผู้ต้องหายอมรับว่า เคยโพสต์ข้อความมิบังควรลงในเว็บบอร์ดจริง
               ขณะนี้ทางตำรวจได้ยึดเอาคอมพิวเตอร์ของผู้ต้องหามาตรวจสอบ ว่าจะมีผู้ใดเกี่ยวข้องอีกบ้าง หากพบมีผู้เกี่ยวข้องก็จะออกหมายจับเพิ่มเติมต่อไป
มาตราที่ทำผิดและโทษที่ได้รับ
               ผู้ต้องหากระทำความผิดตามมาตรา 14 พ.ร.บ.เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ก่อให้เกิดความเสียหายปี 2550 มีโทษจำ 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
แนวทางการหลีกเลี่ยงหารกระทำผิด
               ไม่กระทำการโพสข้อความหรือข้อมูลลงบนอินเตอร์เน็ตที่มีผลกระทบต่อสังคม และจะป้องกันตัวเองจากการใช้คอมพิวเตอร์สาธารณะ โดยไม่ Log in ชื่อตัวเองไว้ในเครื่อง

คดีที่ 3  ฐานตัดต่อคลิปโกงข้อสอบศาล ผิดพรบ.คอมพิวเตอร์


               Mthainews: ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยถึงมติที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ว่า คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติมอบหมายให้ตน ดำเนินการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อดีตเลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ และกลุ่มบุคคลไม่ทราบจำนวนที่ร่วมกันจัดทำและเผยแพร่คลิปวิดีโอชุดที่ 3 เกี่ยวกับคำสารภาพเด็กฝาก ทางคอมพิวเตอร์ เครือข่ายเว็บไซต์ และหนังสือพิมพ์บางฉบับ ระหว่างวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
               โดยใช้นามแฝงว่า Ohmygod3009 ที่กระทำการเผยแพร่คลิปวิดีโอเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ผ่านการตัดต่อรวม 4ตอน อันเป็นการหมิ่นประมาท หรือ ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลยุติธรรม และสถาบันการเมืองการปกครองของไทย ซึ่งเป็นการร่วมกันกระทำความผิดใน ลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ม.198 ม.326 และ ม.328 รวมทั้งเป็นการเผยแพร่ และส่งต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันผิดต่อ พ.ร.บ.ว่าด้วยคอมพิวเตอร์ 2550 ม.14
               ส่วนกรณีการดำเนินการแจ้งความ ในครั้งนี้นั้น ถือเป็นครั้งที่ 2 จาก 3 คดีในกรณีการเผยแพร่คลิป ซึ่งเป็นกระบวนการทางกฎหมาย และความยุติธรรม ที่คณะตุลาการเลือกใช้ ส่วนจะมีการตั้งคณะกรรรมการหรือไม่นั้น คงต้องรอมติจากคณะตุลาการ แต่อย่างไรแล้ว ทางสำนักงานจะไม่หยุดแสวงหาความจริงในเรื่องนี้อย่างแน่นอน
สรุป
               การเผยแพร่ ส่งต่อ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่เป็นคลิปวีดีโอเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยผ่านการตัดต่อที่มีเนื้อความอันเป็นการหมิ่นประมาท หรือดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลยุติธรรม และสถาบันการเมืองการปกครองของไทย เป็นการกระทำที่ผิด
มาตราที่ทำผิดและโทษที่ได้รับ
               ผิดมาตรา 14 บทลงโทษ ปรับไม่เกิน 100,000 จำคุกไม่เกิน5ปี
แนวทางการหลีกเลี่ยงหารกระทำผิด
               คลิปวีดีโอที่ผ่านการตัดต่อที่มีเนื้อความอันเป็นการหมิ่นประมาทหรือดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลยุติธรรม และสถาบันการเมืองการปกครองของไทย เราไม่ควรส่งต่อข้อมูล เพราะเป็นการกระทำความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ ควรแจ้งให้ผู้ตรวจสอบหรือเจ้าหน้าที่ให้ทราบ

อ้างอิง : terawat257 .2559. ตัวอย่างการกระทำความผิด พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐. (ออนไลน์). แหล่งที่มา: https://terawat257.wordpress.com/. 11 พฤษจิกายน 2559.




คดีที่ 4    กลับตาลปัตร! คลิปชายขัดจรวด คนโพสต์ส่อผิด พรบ.คอมพ์ ติดคุกไม่เกิน 5 ปี


               สาวโพสต์คลิปชายขัดจรวดท่ารถตู้ปราจีนฯ ทนาย-ตำรวจ เผย ปล่อยคลิปลงโซเชียลแบบไม่เซนเซอร์ ส่อผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ โทษหนักกว่าชายอนาจาร... เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 59 มีรายงานว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้เผยคลิปเตือนภัยสังคมขณะพบชายหนุ่มรายหนึ่งกำลังนั่งช่วยตัวเองบริเวณวินรถตู้จังหวัดปราจีนบุรี โดยผู้โพสต์บรรยายข้อความว่า "ภัยใกล้ตัว!! มาใช้บริการที่วินรถตู้ปกติ ตอนช่วงเวลาตีสามตีสี่ บังเอิญวันนี้ ผู้โดยสารดันมีเราคนเดียวนั่งอยู่สักครู่ไอ้...นี้ก้อมาจอดรถหน้าร้าน แล้วนั่งทำอย่างว่า แล้วส่งเสียงเพื่อที่จะให้เราหันไปมอง แต่พอเราไม่สนใจ มันกลับเดินเข้ามาทำใกล้ๆ ด้านหลังเราเราแกล้งหยิบโทรศัพท์ก้มหน้าก้มตาเล่น พอมันเห็นเรายังไม่สนใจมันอีก มันจึงเดินมานั่งทำข้างหน้าเราเลย ไม่รู้จะบอกให้เจ้าของวินช่วยยังไง เพราะแกก็ไม่เห็นเราเลยถ่ายคลิป แล้วโทรแจ้ง สภ.เมืองปราจีน ให้มาเอาตัวมันไป แต่มันไหวตัวทัน เพราะตำรวจขี่รถมาแล้วมันเห็น ตร.ก่อนพอดี อ่านแล้วแชร์ต่อนะคะ ตร.จับไม่ได้มันขี่โซนิก สีดำแดง หนีไป นี้ขนาดมีเจ้าของวินนั่งอยู่ด้วยนะ มันยังกล้า #เห็นแชร์ต่อนะมันจะได้โดนจับ #พวกโรคจิต"ด้านแฟนเพจ "ทนายคู่ใจของทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ได้ออกมาโพสต์ให้ความรู้ด้านกฎหมายเกี่ยวกับคลิปนี้ว่า จริงอยู่ที่การทำอนาจารในที่สาธารณะมีความผิดลหุโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 388 มีโทษปรับไม่เกิน 5 พันบาท แต่การนำภาพหรือคลิปมาโพสต์โดยไม่มีการเซ็นเซอร์ปิดบังหน้าตา ก็เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เช่นกัน ตามมาตรา 14 อนุ 4 ฐานนำเข้าข้อมูลลามกอนาจารสู่คอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 พันบาท แต่การนำภาพหรือคลิปมาโพสต์โดยไม่มีการเซ็นเซอร์ปิดบังหน้าตา ก็เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เช่นกัน ตามมาตรา 14 อนุ 4 ฐานนำเข้าข้อมูลลามกอนาจารสู่คอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเรื่องนี้กฎหมายเปิดช่องให้เจ้าของคลิปแจ้งความเอาผิดกับชายคนนี้ได้ข้อหากระทำอนาจาร แต่หากชายในคลิปได้รับความเสื่อมเสีย ก็สามารถแจ้งความเอาผิดได้เช่นกัน ผู้ชายอาจเสียค่าปรับแค่ 5 พัน แต่ผู้หญิงอาจติดคุกต้องใช้เงินประกันตัวเป็นแสน
มาตราที่ทำผิดและโทษที่ได้รับ
               มาตรา 14 วงเล็บ 4 และวงเล็บ 5 ทั้งคนโพสต์และคนแชร์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท
แนวทางการหลีกเลี่ยงหารกระทำผิด
               เมื่อต้องการโพสสื่อลามกอนาจารหรือภาพที่มิควร ควรมีการเซ็นเซอร์เพื่อปกปิดผู้กระทำถือว่าเป็นการกระทำด้านจริยธรรมด้านหนึ่งของสื่อสารมวลชน

อ้างอิง : ไทยรัฐออนไลน์ .2559. กลับตาลปัตร! คลิปชายขัดจรวด คนโพสต์ส่อผิด พรบ.คอมพ์ ติดคุกไม่เกิน 5 ปี. (ออนไลน์). แหล่งที่มา: http://www.thairath.co.th/. 11 พฤษจิกายน 2559.



 คดีที่ 5  ตำรวจ 191 ฮึ่ม! จ่อเอาผิดคนสร้าง-แชร์ข่าว เปลี่ยนเบอร์แจ้งเหตุฉุกเฉิน



ตำรวจ 191 เตรียมแจ้งความเอาผิดคนสร้างคนแชร์ การเปลี่ยนหมายเลขฉุกเฉินเป็น 911 ที่ว่อนทั่วโลกโซเชียล ชี้สร้างความเสียหายสับสนแก่ประชาชน สั่งรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมฯ แล้ว
               เมื่อวันที่ 25 ก.ค.2559 พลตำรวจตรีภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บังคับการกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีมีกระแสในโลกโซเชียลมีเดียว่า ได้มีการเปลี่ยนหมายเลขฉุกเฉินแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย เป็นหมายเลข 911ว่าขณะนี้หมายเลยแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายของกองกำกับการศูนย์รวมข่าว กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษยังคงใช้หมายเลขเดิม คือหมายเลข 191
               ผบก.สปพ.กล่าวต่อว่า ส่วนข่าวที่มีการแชร์กัน อาจเป็นเพราะมีการนำวาระเรื่องพระราชบัญญัติการกำหนดหมายเลขฉุกเฉินแห่งชาติเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจึงทำให้เกิดการเข้าใจผิด และมีการตีความว่าจะเปลี่ยนหมายเลขฉุกเฉินเป็น 911 ให้เหมือนในต่างประเทศโดยการสร้างเรื่อง แชร์ข้อมูลดังกล่าว ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลเพื่อเตรียมร้องทุกข์กล่าวโทษกับผู้สร้างเรื่องและแชร์ต่อ กับกองกำกับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ในความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 โดยมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท
               พลตำรวจตรีภาณุรัตน์ กล่าวด้วยว่า ส่วนเรื่องการพิจารณาพระราชบัญญัติหมายเลขฉุกเฉินแห่งชาติ ยังคงอยู่ระหว่างการพิจารณาและเพิ่งนำเรื่องดังกล่าวประชุมในคณะรัฐมนตรีเท่านั้น ยังไม่มีการประกาศบังคับใช้ใดๆ อย่างไรก็ตาม พลตำรวจตรีภาณุรัตน์ระบุอีกว่า สำหรับหมายเลขฉุกเฉิน 191 ขณะนี้ได้รับการพัฒนาปรับปรุง มีเจ้าหน้าที่รอรับสาย และจำนวนคู่สายที่มีเพียงพอที่จะให้บริการประชาชนแล้ว.
มาตราที่ทำผิดและโทษที่ได้รับ
               กระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 โดยมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท
แนวทางการหลีกเลี่ยงหารกระทำผิด
               ไม่ควรโพสหรือแชร์ข้อมูลข่าวสารที่ไม่มีการคัดกรองหรือได้รับการยืนยันความจริง และข้อมูลข่าวสารที่เป็นเท็จเพราอาจก่อให้เกิดความเสียหาย แก่บุคคลอื่นหรือเสียหายแก่ความมั่นคงของประเทศได้

อ้างอิง : ไทยรัฐออนไลน์ .2559. ตำรวจ 191 ฮึ่ม! จ่อเอาผิดคนสร้าง-แชร์ข่าว เปลี่ยนเบอร์แจ้งเหตุฉุกเฉิน. (ออนไลน์). แหล่งที่มา: http://www.thairath.co.th/. 11 พฤษจิกายน 2559.



สมาชิก ปทม.57/2
นางสาวชนิดา    พุ่มไทย         เลขที่ 10
นางสาวกรกช    ประสิทธิเวช เลขที่ 12
นางสาวพรนิภา ปะวันจะ       เลขที่14
นายอธิพงศ์        เอกวรพันธ์  เลขที่18
นายชานนทร์     พุมาเกรียว   เลขที่19
นายปวริศร์        แซ่เฮ้ง          เลขที่21








วันพุธที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

กฏหมาย - ทรัพย์สินทางปัญญา


กฏหมาย - ทรัพย์สินทางปัญญา


       1.เครื่องหมายทางการค้า
                    คือ เครื่อง ยี่ห้อ หรือตรา ที่ใช้กับสินค้า เพื่อแสดงว่าสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้า
นั้นแตกต่างไปจากสินค้าของบุคคลอื่น 

                                                  ยกตัวอย่าง - เครื่องหมายทางการค้า

      2.ความลับทางการค้า
                    คือ ข้อมูลการค้าซึ่งยังไม่รู้จักกันโดยทั่วไปหรือยังเข้าถึงไม่ได้ในหมู่บุคคลซึ่งโดยปกติแล้วต้องเกี่ยวข้องกับข้อมูลดังกล่าว โดยเป็นข้อมูลที่นำไปใช้ประโยชน์ในทางการค้าเนื่องจากการเป็นความลับทางการค้าโดยใช้วิธีการที่เหมาะสมรักษาไว้เป็นความลับ
                                                                                       
                                                        ยกตัวอย่าง - ความลับทางการค้า






      3.แผนผังวงจรรวม

                    คือ แบบแผนผัง หรือภาพที่ทำขึ้นไม่ว่าจะปรากฏในรูปแบบใดหรือวิธีใดเพื่อให้เห็นถึงการจัดวางให้เป็นวงจรรวม ที่มีลักษณะตามที่กำหนดในพระราชบัญญัติคุ้มครองแบบผังภูมิของวงจรรวม พ.ศ. 2543 ซึ่งหากต้องการขอรับความคุ้มครอบแบบผังภูมิของวงจรรวม ต้องยื่นคำขอจดทะเบียนแบบผังภูมิของวงจรรวม พร้อมชำระค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนแบบผังภูมิของวงจรรวมได้ที่ ส่วนบริหารงานจดทะเบียน สำนักสิทธิบัตร กรมทรัพย์สินทางปัญญา หรือ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกแห่


                                                       ยกตัวอย่าง - แผนผังวงจรรวม

     4.สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI)
                      คือ เครื่องหมายที่้ใช้กับสินค้าที่มากจากแหล่งผลิตที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งคุณภาพหรือชื่อเสียงของสินค้านั้นๆ เป็นผลมาจากการผลิตในพื้นที่ดังกล่าว GI จึงเปรียบเสมือนเป็นแบรนด์ของท้องถิ่นที่บ่งบอกถึงคุณภาพและแหล่งที่มาของสินค้า

                                                              ยกตัวอย่าง - ตัวบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์
   
                                                                   
                                                                           กาแฟดอยดุง


                                                                                     
                                                                     ผ้าไหมยกดอก ลำพูน



                                                                                   ไข่เค็มไชยา


   สมาชิก ปทม.57/2
   ชนิดา พุ่มไทย 10
กรกช ประสิทธิเวช 12
พรนิภา ปะวันจะ 14
อธิพงศ์ เอกวรพันธ์ 18
ชานนทร์ พุมาเกรียว 19
ปวริศร์ แซ่เฮ้ง 21