ตัวอย่างการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีในประเทศไทย
คดีที่ 1 จับแล้ว เจ้าของ โปร คาบาล, โรฮาน
เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2554
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท)
และบริษัทเอเซียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกันจับกุมตัว “นายนภดล
ชุมดี” ข้อหาละเมิดลิขสสิทธ์
โดยใช้โปรแกรมช่วยเล่น ผ่านเว็บไซต์ "ddprogame.blogspot.com" เพื่อจำหน่ายและเผยแพร่ชุดคำสั่งที่ทำให้รบกวนการทำงานของเกมส์คาบาลออนไลน์และเกมส์โรฮานออนไลน์
โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธ์ สามารถยึดของกลางได้ เซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์
1 เครื่อง และ เร้าเตอร์ 1 ตัว
มาตราที่ทำผิดและโทษที่ได้รับ
ศาลได้ตัดสินให้ “นายนภดล ชุมดี” มีความผิดตาม พ.ร.บ.
ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ใน
-
มาตราที่ 13 ว่าด้วย “ผู้ใดจำหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคำสั่งที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด” ได้รับโทษจำคุก 2เดือน ปรับ 7,000บาท และรอลงอาญา
และศาลตัดสินให้ผู้ที่ใช้โปรแกรมของนายนภดล
ชุมดี มีความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
-
มาตรา 9
ว่าด้วย "ผู้ใดเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ
โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน)”ได้รับโทษจำคุกไม่เกิน
5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ
แนวทางการหลีกเลี่ยงหารกระทำผิด
การที่เราไปเป็นผู้ใช้บริการทางคอมพิวเตอร์เราสามารถหลึกเลี่ยงการกระทำผิดเหล่านี้ได้โดยการไม่ใช้บริการทางอินเทอร์เน็ตที่มีการละเมิดลิขสิทธ์
ใช้บริการจากเว็ปไวน์ที่หน้าเชื่อถือโดยดูจาก URL ไม่ควรบอก user
ID และ password ให้แก่ผู้อื่นรู้ และไม่ควรให้ผู้อื่นใช้คอมพิวเตอร์ของเรา
เพราะเขาอาจจะเข้าใช้บริการเว็บไซน์ที่ผิดกฎหมายได้
อ้างอิง : อาริยา ตั๋วโรย .2554. ข่าวการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์.
(ออนไลน์). แหล่งที่มา:http://arriyatuaroy.blogspot.com/. 11
พฤษจิกายน 2559.
คดีที่ 2 ตำรวจบุกรวบหมอสาวคาโรงพยาบาลธนบุรี เอี่ยวคดี ทุบหุ้น
รับเคยโพสต์ข้อความมิบังควรลงเว็บบอร์ด จนท.ค้นห้องพักยึดโน้ตบุ๊ค
เผยรวมเป็นรายที่ 4
จากกรณีที่ตำรวจหลายหน่วยงานได้ร่วมกันจับ
นายคธา ปาจาริยพงษ์ พนักงานบริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด น.ส.ธีรนันต์
วิภูชนันธ์ อายุ 43 ปี
กรรมการบริหารบริษัทหลักทรัพย์ยูบีเอส (ประเทศไทย) จำกัด และนายสมเจตน์ อิทธิวรกุล
อายุ 38 ปี
เจ้าของโต๊ะสนุ๊กเกอร์แห่งหนึ่งในชลบุรี ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ได้ทำกระทำผิดตาม
พรบ.ว่าด้วยการทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
เรื่องการโพสต์ข้อความอันมิบังควรผ่านทางเว็บไซต์ในอินเตอร์เน็ต
จนก่อให้เกิดความไม่มั่นคงต่อประเทศชาติและส่งผลกระทบทำให้เศรษฐกิจรวมถึง
ตลาดหุ้นไทย
ล่าสุดตำรวจก็ได้เข้าจับกุม
พญ.ทัศพร รัตน์วงศา อายุ 42 ปี
แพทย์รังสีวิทยา โรงพยาบาลธนบุรี ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหากระทำความผิดตามมาตรา 14
พ.ร.บ.เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ก่อให้เกิดความเสียหายปี 2550
ข้อหานำเข้าข้อมูลอื่นและเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ
ทำให้ประชาชนหลงเชื่อก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงต่อประเทศ
โดยมีพฤติกรรมไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติ ปล่อยข่าวให้เกิดความเสื่อมเสีย
โดยผู้ต้องหายอมรับว่า เคยโพสต์ข้อความมิบังควรลงในเว็บบอร์ดจริง
ขณะนี้ทางตำรวจได้ยึดเอาคอมพิวเตอร์ของผู้ต้องหามาตรวจสอบ
ว่าจะมีผู้ใดเกี่ยวข้องอีกบ้าง หากพบมีผู้เกี่ยวข้องก็จะออกหมายจับเพิ่มเติมต่อไป
มาตราที่ทำผิดและโทษที่ได้รับ
ผู้ต้องหากระทำความผิดตามมาตรา 14
พ.ร.บ.เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ก่อให้เกิดความเสียหายปี 2550 มีโทษจำ 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
แนวทางการหลีกเลี่ยงหารกระทำผิด
ไม่กระทำการโพสข้อความหรือข้อมูลลงบนอินเตอร์เน็ตที่มีผลกระทบต่อสังคม
และจะป้องกันตัวเองจากการใช้คอมพิวเตอร์สาธารณะ โดยไม่ Log in ชื่อตัวเองไว้ในเครื่อง
คดีที่ 3 ฐานตัดต่อคลิปโกงข้อสอบศาล ผิดพรบ.คอมพิวเตอร์
Mthainews: ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเชาวนะ
ไตรมาศ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ
เปิดเผยถึงมติที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ว่า
คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติมอบหมายให้ตน
ดำเนินการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายพสิษฐ์
ศักดาณรงค์ อดีตเลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ และกลุ่มบุคคลไม่ทราบจำนวนที่ร่วมกันจัดทำและเผยแพร่คลิปวิดีโอชุดที่
3 เกี่ยวกับคำสารภาพเด็กฝาก ทางคอมพิวเตอร์ เครือข่ายเว็บไซต์
และหนังสือพิมพ์บางฉบับ ระหว่างวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
โดยใช้นามแฝงว่า Ohmygod3009
ที่กระทำการเผยแพร่คลิปวิดีโอเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ผ่านการตัดต่อรวม 4ตอน
อันเป็นการหมิ่นประมาท หรือ ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลยุติธรรม
และสถาบันการเมืองการปกครองของไทย ซึ่งเป็นการร่วมกันกระทำความผิดใน
ลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ม.198 ม.326 และ ม.328
รวมทั้งเป็นการเผยแพร่ และส่งต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันผิดต่อ
พ.ร.บ.ว่าด้วยคอมพิวเตอร์ 2550 ม.14
ส่วนกรณีการดำเนินการแจ้งความ
ในครั้งนี้นั้น ถือเป็นครั้งที่ 2 จาก 3 คดีในกรณีการเผยแพร่คลิป
ซึ่งเป็นกระบวนการทางกฎหมาย และความยุติธรรม ที่คณะตุลาการเลือกใช้
ส่วนจะมีการตั้งคณะกรรรมการหรือไม่นั้น คงต้องรอมติจากคณะตุลาการ แต่อย่างไรแล้ว
ทางสำนักงานจะไม่หยุดแสวงหาความจริงในเรื่องนี้อย่างแน่นอน
สรุป
การเผยแพร่ ส่งต่อ ข้อมูลคอมพิวเตอร์
ที่เป็นคลิปวีดีโอเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยผ่านการตัดต่อที่มีเนื้อความอันเป็นการหมิ่นประมาท
หรือดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลยุติธรรม
และสถาบันการเมืองการปกครองของไทย เป็นการกระทำที่ผิด
มาตราที่ทำผิดและโทษที่ได้รับ
ผิดมาตรา 14 บทลงโทษ ปรับไม่เกิน
100,000 จำคุกไม่เกิน5ปี
แนวทางการหลีกเลี่ยงหารกระทำผิด
คลิปวีดีโอที่ผ่านการตัดต่อที่มีเนื้อความอันเป็นการหมิ่นประมาทหรือดูหมิ่นพระมหากษัตริย์
ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลยุติธรรม และสถาบันการเมืองการปกครองของไทย
เราไม่ควรส่งต่อข้อมูล เพราะเป็นการกระทำความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์
ควรแจ้งให้ผู้ตรวจสอบหรือเจ้าหน้าที่ให้ทราบ
อ้างอิง : terawat257
.2559. ตัวอย่างการกระทำความผิด
พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐. (ออนไลน์).
แหล่งที่มา: https://terawat257.wordpress.com/.
11 พฤษจิกายน 2559.
คดีที่ 4 กลับตาลปัตร! คลิปชายขัดจรวด คนโพสต์ส่อผิด
พรบ.คอมพ์ ติดคุกไม่เกิน 5 ปี
สาวโพสต์คลิปชายขัดจรวดท่ารถตู้ปราจีนฯ
ทนาย-ตำรวจ เผย ปล่อยคลิปลงโซเชียลแบบไม่เซนเซอร์ ส่อผิด พรบ.คอมพิวเตอร์
โทษหนักกว่าชายอนาจาร... เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 59 มีรายงานว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้เผยคลิปเตือนภัยสังคมขณะพบชายหนุ่มรายหนึ่งกำลังนั่งช่วยตัวเองบริเวณวินรถตู้จังหวัดปราจีนบุรี
โดยผู้โพสต์บรรยายข้อความว่า
"ภัยใกล้ตัว!! มาใช้บริการที่วินรถตู้ปกติ ตอนช่วงเวลาตีสามตีสี่
บังเอิญวันนี้ ผู้โดยสารดันมีเราคนเดียวนั่งอยู่สักครู่ไอ้...นี้ก้อมาจอดรถหน้าร้าน
แล้วนั่งทำอย่างว่า แล้วส่งเสียงเพื่อที่จะให้เราหันไปมอง แต่พอเราไม่สนใจ
มันกลับเดินเข้ามาทำใกล้ๆ ด้านหลังเราเราแกล้งหยิบโทรศัพท์ก้มหน้าก้มตาเล่น
พอมันเห็นเรายังไม่สนใจมันอีก มันจึงเดินมานั่งทำข้างหน้าเราเลย ไม่รู้จะบอกให้เจ้าของวินช่วยยังไง
เพราะแกก็ไม่เห็นเราเลยถ่ายคลิป แล้วโทรแจ้ง สภ.เมืองปราจีน ให้มาเอาตัวมันไป
แต่มันไหวตัวทัน เพราะตำรวจขี่รถมาแล้วมันเห็น ตร.ก่อนพอดี อ่านแล้วแชร์ต่อนะคะ
ตร.จับไม่ได้มันขี่โซนิก สีดำแดง หนีไป นี้ขนาดมีเจ้าของวินนั่งอยู่ด้วยนะ มันยังกล้า
#เห็นแชร์ต่อนะมันจะได้โดนจับ #พวกโรคจิต"ด้านแฟนเพจ
"ทนายคู่ใจ” ของทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร
ได้ออกมาโพสต์ให้ความรู้ด้านกฎหมายเกี่ยวกับคลิปนี้ว่า
จริงอยู่ที่การทำอนาจารในที่สาธารณะมีความผิดลหุโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 388
มีโทษปรับไม่เกิน 5 พันบาท แต่การนำภาพหรือคลิปมาโพสต์โดยไม่มีการเซ็นเซอร์ปิดบังหน้าตา
ก็เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เช่นกัน ตามมาตรา 14 อนุ
4 ฐานนำเข้าข้อมูลลามกอนาจารสู่คอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 พันบาท แต่การนำภาพหรือคลิปมาโพสต์โดยไม่มีการเซ็นเซอร์ปิดบังหน้าตา
ก็เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เช่นกัน ตามมาตรา 14 อนุ 4
ฐานนำเข้าข้อมูลลามกอนาจารสู่คอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ
ซึ่งเรื่องนี้กฎหมายเปิดช่องให้เจ้าของคลิปแจ้งความเอาผิดกับชายคนนี้ได้ข้อหากระทำอนาจาร
แต่หากชายในคลิปได้รับความเสื่อมเสีย ก็สามารถแจ้งความเอาผิดได้เช่นกัน
ผู้ชายอาจเสียค่าปรับแค่ 5 พัน แต่ผู้หญิงอาจติดคุกต้องใช้เงินประกันตัวเป็นแสน
มาตราที่ทำผิดและโทษที่ได้รับ
มาตรา 14 วงเล็บ 4 และวงเล็บ 5 ทั้งคนโพสต์และคนแชร์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5
ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท
แนวทางการหลีกเลี่ยงหารกระทำผิด
เมื่อต้องการโพสสื่อลามกอนาจารหรือภาพที่มิควร
ควรมีการเซ็นเซอร์เพื่อปกปิดผู้กระทำถือว่าเป็นการกระทำด้านจริยธรรมด้านหนึ่งของสื่อสารมวลชน
อ้างอิง :
ไทยรัฐออนไลน์ .2559. กลับตาลปัตร! คลิปชายขัดจรวด คนโพสต์ส่อผิด พรบ.คอมพ์
ติดคุกไม่เกิน 5 ปี. (ออนไลน์). แหล่งที่มา:
http://www.thairath.co.th/. 11 พฤษจิกายน 2559.
คดีที่ 5 ตำรวจ
191 ฮึ่ม! จ่อเอาผิดคนสร้าง-แชร์ข่าว เปลี่ยนเบอร์แจ้งเหตุฉุกเฉิน
ตำรวจ 191 เตรียมแจ้งความเอาผิดคนสร้างคนแชร์
การเปลี่ยนหมายเลขฉุกเฉินเป็น 911 ที่ว่อนทั่วโลกโซเชียล
ชี้สร้างความเสียหายสับสนแก่ประชาชน สั่งรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมฯ
แล้ว
เมื่อวันที่ 25 ก.ค.2559 พลตำรวจตรีภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บังคับการกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีมีกระแสในโลกโซเชียลมีเดียว่า
ได้มีการเปลี่ยนหมายเลขฉุกเฉินแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย เป็นหมายเลข
911ว่าขณะนี้หมายเลยแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายของกองกำกับการศูนย์รวมข่าว
กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษยังคงใช้หมายเลขเดิม คือหมายเลข 191
ผบก.สปพ.กล่าวต่อว่า
ส่วนข่าวที่มีการแชร์กัน
อาจเป็นเพราะมีการนำวาระเรื่องพระราชบัญญัติการกำหนดหมายเลขฉุกเฉินแห่งชาติเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจึงทำให้เกิดการเข้าใจผิด
และมีการตีความว่าจะเปลี่ยนหมายเลขฉุกเฉินเป็น 911 ให้เหมือนในต่างประเทศโดยการสร้างเรื่อง
แชร์ข้อมูลดังกล่าว ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน
จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลเพื่อเตรียมร้องทุกข์กล่าวโทษกับผู้สร้างเรื่องและแชร์ต่อ
กับกองกำกับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.)
ในความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 โดยมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท
พลตำรวจตรีภาณุรัตน์ กล่าวด้วยว่า
ส่วนเรื่องการพิจารณาพระราชบัญญัติหมายเลขฉุกเฉินแห่งชาติ ยังคงอยู่ระหว่างการพิจารณาและเพิ่งนำเรื่องดังกล่าวประชุมในคณะรัฐมนตรีเท่านั้น
ยังไม่มีการประกาศบังคับใช้ใดๆ อย่างไรก็ตาม พลตำรวจตรีภาณุรัตน์ระบุอีกว่า
สำหรับหมายเลขฉุกเฉิน 191 ขณะนี้ได้รับการพัฒนาปรับปรุง มีเจ้าหน้าที่รอรับสาย
และจำนวนคู่สายที่มีเพียงพอที่จะให้บริการประชาชนแล้ว.
มาตราที่ทำผิดและโทษที่ได้รับ
กระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550
โดยมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท
แนวทางการหลีกเลี่ยงหารกระทำผิด
ไม่ควรโพสหรือแชร์ข้อมูลข่าวสารที่ไม่มีการคัดกรองหรือได้รับการยืนยันความจริง
และข้อมูลข่าวสารที่เป็นเท็จเพราอาจก่อให้เกิดความเสียหาย
แก่บุคคลอื่นหรือเสียหายแก่ความมั่นคงของประเทศได้
อ้างอิง : ไทยรัฐออนไลน์ .2559. ตำรวจ 191 ฮึ่ม! จ่อเอาผิดคนสร้าง-แชร์ข่าว
เปลี่ยนเบอร์แจ้งเหตุฉุกเฉิน. (ออนไลน์). แหล่งที่มา:
http://www.thairath.co.th/. 11 พฤษจิกายน 2559.
สมาชิก ปทม.57/2
นางสาวชนิดา พุ่มไทย เลขที่ 10
นางสาวกรกช ประสิทธิเวช เลขที่ 12
นางสาวพรนิภา
ปะวันจะ เลขที่14
นายอธิพงศ์ เอกวรพันธ์ เลขที่18
นายชานนทร์ พุมาเกรียว เลขที่19
นายปวริศร์ แซ่เฮ้ง เลขที่21
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น